| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิธีทำแกงเลียง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โขลกพริกไทย กะปิ หัวหอม ให้ละเอียด ใส่กุ้งแห้งป่นอย่างดี โขลกรวมกัน
บวบเหลี่ยมล้างสะอาด ปอกเปลือกหั่นแฉลบ
ฟักทองปอกเปลือก ฝานไส้ออก ล้างน้ำให้สะอาดหั่นขนาดพอคำ (กว้าง 1.5 หนา 1.5 ยาว 2.5 เซนติเมตร)
ใบแมงลัก ใบตำลึง ล้างให้สะอาด เด็ดใบแยกไว้
เห็ดฟางเกลาดินออกให้หมดล้างน้ำหั่นกลางผ่า 2 ซีก
นำน้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง (1188 กรัม) ใส่ภาชนะตั้งไฟให้เดือด นำบวบเหลี่ยม ฟักทอง น้ำเต้า เห้ดฟาง ลวกพอสุกตักขึ้นพักไว้ เวลาที่ใช้ในการลวกผักประมาณ 4, 3, 6, 2 นาทีตามลำดับ (ลวกผักเพื่อให้สีผักยังคงสดสีสวยไม่เป็นสีตายนึ่ง)
ละลายส่วนผสมพริกแกงกับน้ำลวกผักที่เหลือประมาณ 3 1/2 ถ้วยตวง พอเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ใบตำลึง ใบแมงลัก พร้อมทั้งผักที่ลวกไว้ทั้งหมด คนให้ทั่วปิดไฟ ยกลงเสิร์ฟขณะร้อนๆ
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รสชาติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เค็ม หวานผัก
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สรรพคุณทางยา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1. พริกไทย รสเผ็ดร้อน ขับลม ขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร 2. หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด 3. ผักต่าง ๆ เช่น ฟักทอง รสมันหวาน บำรุงร่างกาย บำรุงสายตา 4. บวบ รสเย็นจืดออกหวาน มีแคลเซียม เหล็กและฟอสฟอรัสมาก 5. น้ำเต้า - ผลอ่อน ใช้ปรุงอาหาร - เมล็ด ประเทศจีนนำมาต้มกับเกลือกินเพื่อเจริญอาหาร เถา, ใบอ่อน, เนื้อหุ้มรอบ ๆ เมล็ด ประเทศอินเดียใช้เป็นยาทำให้อาเจียนและยาระบาย เป็นยาถ่ายพยาธิและแก้อาการบวมน้ำ 6. ตำลึง รสเย็น ใบสดตำคั้นน้ำแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดแสบปวดร้อน และคั้นรับประทานเป็นยาดับพิษร้อน แก้เจ็บตา ตาแดง ตาแฉะ 7. ข้าวโพด รสมันหวาน -เมล็ด เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร ฝาด สมานบำรุงหัวใจ ปอด เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ 8. ใบแมงลัก ใบสด รสหอมร้อน เป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้โรคท้องร่วง ขับลม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หมายเหตุ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แกงเลียงที่อร่อยมักจะต้องสด ใหม่ จึงจะทำให้น้ำแกงหวานโดยธรรมชาติ และหอมน้ำพริกแกง
ควรรับประทานขณะร้อนๆ
แกงเลียงมักจะรับประทานกับน้ำพริกกะปิ
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประโยชน์ทางอาหาร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แกงเลียงมีส่วนประกอบพริกขี้หนู หอม พริกไทย กะปิ เกลือ กุ้งแห้ง ผักต่าง ๆ เช่น บวบ ฟักทอง น้ำเต้า ตำลึง ข้าวโพด ใบแมงลัก โบราณเชื่อว่าเป็นอาหารที่ช่วยประสะน้ำนมสำหรับสตรีหลังคลอด ทำให้นมบริบูรณ์ และแก้ไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
|
วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
แกงเลียง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น